2010/07/28

What is GP4G? Why we want it?


Alfred G. Gilman และ Dr. Martin Rodbell

ผู้ซึ่งได้รับรางวัลโนเบล ในสาขา The Nobel Prize in Physiology or Medicine

เป็นผู้ซึ่งคิดค้นส่วนประกอบที่สำคัญ ผลิตภัณฑ์ ASNI Cosmetic และ ASNI Skin Care


อะไรคือ GP4G แล้วทำไมเราถึงต้องการมัน

Diguanosine Tetraphosphate

INCI NAME : Water (and) Artemia Extract


คำ จำกัดความ : GP4G เป็นสารสกัดด้วยกระบวนการทางชีวภาพจากแพลงก์ตอนทะเล (Artemia Salina) ซึ่งมีองค์ประกอบหลักคือ Diguanosine Tetraphosphate(GP4G) ซึ่งเป็นสารที่ให้พลังงานสูงแก่เซลล์ เนื่องจากมีพลังงานจากพันธะของหมู่ฟอสฟอรัส สามารถกระตุ้นเมตาบอลิซึ่มของเซลล์จากสภาวะเฉื่อย (aged cell) นอกจากนี้ GP4G ยังประกอบด้วย energetic messenger เช่น GPT, G- protein activator ที่ช่วยประตุ้นเมตาบอลิซึ่มให้แก่เซลล์ด้วย และ GP4G ยังเป็นแหล่งของ Guanine ,guanosine และ phosphrous ซึ่งเป็นองค์ประกอบในโครงสร้างพื้นฐานของเซลล์ผิว


ตามธรรมชาติ ของแพลงก์ตอนชนิดนี้จะอาศัยอยู่ในทะเลสาบที่มีความเข้มข้นของแร่ธาตุต่างๆ สูงมาก มันจึงต้องปรับตัวให้อยู่ในภาพแวดล้อมที่เลวร้ายนี้ได้ (hypermineralization, dehydration ,oxidative stress, heat shock, anoxia ..) โดยการห่อหุ้มตัวเอง (encapsulate) หรือที่เรียกว่าภาวะจำศีล (DORMANCY) ซึ่งจะเก็บสะสมพลังงานไว้ใช้ในรูปของ GP4G เพื่อคงเมตาบอลิซึ่มระหว่างภาวะกดดันนี้ ซึ่งจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานหลายๆปี แต่เมื่อสภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงดีขึ้น แพลงก์ตอนจะดูดน้ำและทำให้เกิดปฎิกิริยาต่างๆในเซลล์ โดย GP4G จะลดลงอย่างรวดเร็วเปลี่ยนเป็น ATP เพี่อให้พลังงานที่จำเป็นต่อกระบวนการสร้างโปรตีนของเซลล์ของภาวะ early development เพื่อฟื้นฟูเซลล์ (revitalizing)


เมื่อนำ GP4G ไปใช้ในผลิตภัณฑ์ skin care จะให้คุณสมบัติ


ให้พลังงานแก่เซลล์ผิว

กระตุ้นเมตาบอริซึมของเซลล์ให้เพิ่มขึ้น

ปกป้องเซลล์จากสิ่งแวดล้อมที่เป็นมลภาวะ (alarmone concept) UV,Free radical , Stress, DNAse , Hsp

เพิ่มความแข็งแรง และความยืดหยุ่นให้แก่เซลล์

ปกป้องและซ่อมแซม DNA


ผลการ ทดสอบประสาทธิภาพ


เมื่อทำการทดสอบใน Human fibroblast พบว่า


GP4G 2% ทำให้ cAMP ( เป็น second messenger ในประบวนการต่างๆของเซลล์หลายกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการสร้างพลังงาน ) เพิ่มสูงขึ้นถึง 40% เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม


GP4G 1% กระตุ้นการสร้าง Filaggrin และ Cell Differentiation , สามารถกระตุ้นการสร้าง Cytokeratin ใน Keratinocyte ซึ่งเป็นการทำให้ความสามารถในการปกป้องผิวเพิ่มขึ้นและกระตุ้นการสร้างคอลลา เจน type I 54% ภายใน 48 ชั่วโมง เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุมซึ่งคอลลาเจนเป็นโปรตีนที่สำคัญในเนื้อเยื่อ เกี่ยวพันจึงเพิ่มความแข็งแรงความทนทาน และการซ่อมแซมตัวเองของผิวและสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน Type III เช่นกัน และทำให้ Fibronectin ซึ่งเป็นโปรตีนที่สำคัญของ extracellular matrix เพิ่มขึ้น 27%


นอกจากนี้ภายใน 24 ชั่วโมง GP4G 1% ยังช่วยปกป้อง DNA ของ Keratinocyte จากการทำลายของรังสี UVB ได้ พบว่าเมื่อใช้ GP4G ก่อนหรือหลังการโดนรังสี UVB พบว่าสามารถปกป้องได้ถึง 30% และ 35 % ตามลำดับ ส่วนถ้าใช้ GP4G ทั้งก่อนและหลังการโดนรังสี UVB พบว่าปกป้อง DNA ได้ถึง 45% ซึ่งแสดงให้เห็นว่า GP4G มีความสามารถทั้งการปกป้องและซ่อมแซม DNA ได้


สรุป จากการทดสอบพบว่า GP4G ให้ผลในการเพิ่มพลังงานแก่เซลล์สามารถนำไปใช้ในการสร้างเซลล์ใหม่และซ่อมแซม เซลล์ที่ถูกทำลายจากสาเหตุภายในคืออายุที่มากขึ้นหรือปัจจัยภายนอกคือมลภาวะ แสงแดด นอกจากนี้ยังช่วยปกป้องและซ่อมแซม DNA ได้ โดยมีการศึกษาพบว่าปริมาณ DNA ที่ลดลงมีผลต่อการเกิดริ้วรอย


2 comments:

Anonymous said...

SUPER !

JuMBo said...

So cool for your skin.